ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปไกล การรักษาปัญหาทางสายตาก็มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำเลสิกได้แบบดั้งเดิม การผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักว่า ICL คืออะไร, การรักษาด้วย เลนส์เสริม นี้เหมาะกับใคร และสามารถ แก้ปัญหาค่าสายตา ได้อย่างไรบ้าง
การใส่เลนส์เสริม ICL (Implantable Collamer Lens) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนที่มีปัญหาสายตารุนแรง ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด หรือสายตาเอียงที่มีค่าสูงเกินกว่าที่เลสิกทั่วไปจะแก้ไขได้ รวมถึงผู้ที่มีกระจกตาบางหรือภาวะตาแห้ง ซึ่งไม่เหมาะกับการยิงเลเซอร์ที่กระจกตาโดยตรง

เลนส์เสริมแบบ ICL ช่วยแก้ปัญหาค่าสายตาได้อย่างไร
เลนส์เสริมแบบ ICL เป็นเลนส์ที่ถูกออกแบบเฉพาะบุคคล มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยแก้ปัญหาค่าสายตาได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือเอียงในระดับที่สูง และไม่สามารถทำเลสิกได้
ICL เป็นเลนส์พับได้ที่ผลิตจากวัสดุ Collamer ซึ่งประกอบด้วยคอลลาเจนและโคโพลีเมอร์ (Copolymer) สามารถเข้ากับเนื้อเยื่อตาของมนุษย์ได้ดี โดยจะถูกฝังไว้ในดวงตาระหว่างม่านตาและเลนส์แก้วตาเดิม โดยไม่ต้องถอดเลนส์แก้วตาออก ซึ่งเป็นการรักษาที่ไม่ทำลายโครงสร้างดั้งเดิมของตา และยังสามารถถอดหรือเปลี่ยนเลนส์ออกได้ในอนาคตหากจำเป็น

ขั้นตอนการผ่าตัด ICL
- ตรวจวัดค่าสายตาและความลึกของช่องหน้าลูกตาอย่างละเอียด เพื่อประเมินความเหมาะสมในการใส่เลนส์ ICL
- เลือกขนาดและชนิดของเลนส์ให้เหมาะกับค่าสายตาและโครงสร้างดวงตาแต่ละบุคคล
- ผ่าตัดเปิดแผลเล็กประมาณ 3–3.5 มม. บริเวณกระจกตา
- ใส่เลนส์พับได้ ICL ผ่านแผลนี้ โดยเลนส์จะค่อย ๆ คลี่ตัวออกหลังม่านตา
- แผลผ่าตัดจะสมานตัวเองได้โดยไม่ต้องเย็บ
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่นาน และสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกันหลังจากพักฟื้นที่คลินิก

ใครบ้างที่เหมาะกับการใส่ ICL
- ผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือเอียงมาก (มากกว่า -10.00 Diopter)
- ผู้ที่มีกระจกตาบางหรือมีภาวะตาแห้ง ซึ่งไม่สามารถทำเลสิกหรือ PRK ได้
- ผู้ที่มีอายุระหว่าง 21–45 ปี และมีค่าสายตาคงที่
- ไม่มีโรคทางตาร่วม เช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม
- มีช่องหน้าตาลึกพอสมควรตามที่จักษุแพทย์พิจารณา

ข้อดีของการใส่เลนส์เสริม ICL
- แก้ปัญหาค่าสายตารุนแรงได้ โดยไม่ทำลายกระจกตา
- ไม่ส่งผลกระทบต่อเลนส์แก้วตาเดิม
- สามารถถอดเลนส์ออกได้หากต้องการ
- โอกาสเกิดผลข้างเคียงต่ำ เมื่อเทียบกับการผ่าตัดชนิดอื่น
- ระยะเวลาพักฟื้นน้อย และมองเห็นชัดเจนได้อย่างรวดเร็ว

ข้อจำกัดที่ควรรู้
- ไม่สามารถทำการรักษาได้ทันที เนื่องจากต้องสั่งเลนส์พิเศษที่ตัดตามค่าสายตาของแต่ละคน ใช้เวลาประมาณ 1–2 เดือน
- ต้องตรวจสภาพตาอย่างละเอียด เพื่อประเมินความลึกของช่องตาและปัจจัยอื่น ๆ
- ในบางกรณี อาจมีการแนะนำให้รักษาทีละข้าง โดยเว้นช่วงเวลาให้แน่ใจว่าข้างแรกไม่มีปัญหาก่อน
ICL ต่างจากเลสิกแบบดั้งเดิมอย่างไร?

หลังการผ่าตัดควรดูแลอย่างไร
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือโดนน้ำในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- ใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องเผชิญแสงจ้า
- มาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินการสมานของแผลและวางแผนดูแลเพิ่มเติม
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตาพร่ามัว ปวดตา หรือเห็นแสงแฟลช ควรรีบพบแพทย์ทันที

เตรียมตัวอย่างไรก่อนผ่าตัดใส่เลนส์เสริม
- ควรงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 7 วันก่อนตรวจตา
- นัดปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนก่อนทำ เพื่อรอเลนส์ที่ผลิตเฉพาะบุคคล
- ตรวจวัดค่าสายตาและโครงสร้างตาโดยละเอียด เพื่อวางแผนผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ICL
Q: ICL อยู่ในดวงตาได้ตลอดชีวิตหรือไม่?
A: ใช่ ICL เป็นเลนส์ที่อยู่ในตาแบบถาวร แต่สามารถถอดออกได้หากมีเหตุจำเป็น เช่น ต้องผ่าตัดต้อกระจกในอนาคต
Q: การมองเห็นหลังผ่าตัดจะดีขึ้นทันทีไหม?
A: โดยทั่วไปผู้ป่วยจะเริ่มมองเห็นได้ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง และค่อย ๆ ชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์แรก
Q: การใส่ ICL เจ็บหรือไม่?
A: ไม่เจ็บ เพราะใช้ยาชาหยอดตาและแผลมีขนาดเล็กมาก
Q: ทำที่คลินิกทั่วไปได้หรือไม่?
A: ไม่แนะนำ เพราะต้องใช้ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีเครื่องมือพิเศษ ควรทำในคลินิกที่มีมาตรฐานด้านจักษุวิทยาเฉพาะทาง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีค่าสายตาสูง กระจกตาบาง หรือมีข้อจำกัดในการทำเลสิกทั่วไป การใส่เลนส์เสริม ICL อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลที่สุดสำหรับคุณ ทางคลินิกเลสิคหมอจตุพรมีจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดใส่เลนส์เสริมโดยตรง พร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียดก่อนเข้ารับการรักษาเพื่อความมั่นใจสูงสุดของคุณทุกขั้นตอน ลองนัดปรึกษากับเรา แล้วคุณจะพบว่าการมองเห็นที่คมชัดและสบายตานั้นเป็นจริงได้ง่ายกว่าที่คิด