เปรียบเทียบ
ความแตกต่าง

Super ReLEx (SMILE Pro)

หน้าแรก > SMILE Pro

SMILE Pro เลสิค บาดแผลเล็ก ที่แม่นยำ ปลอดภัย รวดเร็วใน 8 วินาที

SMILE Pro เลสิค บาดแผลเล็ก แม่นยำ ปลอดภัย ไม่เปิดฝากระจกตา ฟื้นตัวไว ลดอาการตาแห้งและแสงกระจาย ให้การมองเห็นคมชัดและปลอดภัยยิ่งขึ้น

          สำหรับใครที่กำลังมองหาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาสายตาสั้นหรือสายตาเอียง การทำ SMILE Pro ถือเป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน ด้วยแนวคิดของ เลสิค บาดแผลเล็ก ที่ช่วยลดการรบกวนกระจกตา พร้อมความ แม่นยำ ปลอดภัย สูงสุดในการผ่าตัดสายตา
          SMILE Pro ใช้เทคโนโลยี Femtosecond Laser ด้วยเครื่อง Visumax 800 จากเยอรมนี ซึ่งสามารถยิงเลเซอร์เพื่อแยกชั้นกระจกตาได้ภายในเวลาเพียง 8–10 วินาที ลดผลข้างเคียง ฟื้นตัวเร็ว และช่วยให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติอย่างมีประสิทธิภาพ

เลสิคบาดแผลเล็กที่แม่นยำ ปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี SMILE Pro

การทำ เลสิค บาดแผลเล็ก ด้วยเทคโนโลยี SMILE Pro ถือเป็นก้าวใหม่ของวงการจักษุวิทยา ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาภาวะสายตาผิดปกติให้ แม่นยำ ปลอดภัย ยิ่งขึ้น แตกต่างจากการทำเลสิคแบบเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้านของกระบวนการผ่าตัดที่ไม่ต้องเปิดฝากระจกตา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น การเคลื่อนของ flap การติดเชื้อ หรือภาวะกระจกตาโก่งหลังการผ่าตัด

หนึ่งในหัวใจสำคัญของ SMILE Pro คือการใช้เครื่อง Visumax 800 ซึ่งเป็น Femtosecond Laser รุ่นใหม่ล่าสุดจากเยอรมนี ที่สามารถยิงเลเซอร์ด้วยความเร็วสูงและความละเอียดระดับไมครอน ภายในเวลาเพียง 8–10 วินาทีต่อดวงตาหนึ่งข้าง นอกจากความรวดเร็วแล้ว ยังมาพร้อมกับระบบ Eye Tracker และ Centration System ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกตาได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้จักษุแพทย์สามารถวางตำแหน่งการยิงเลเซอร์ได้อย่างแม่นยำในทุกมิลลิเมตร

นอกจากนี้ แผลที่เปิดเพื่อดึง lenticule ออก มีขนาดเล็กเพียง 2–4 มิลลิเมตร ซึ่งนับว่าเล็กกว่าการทำ Femto LASIK ถึงประมาณ 80% ส่งผลให้เนื้อเยื่อกระจกตาได้รับการกระทบกระเทือนน้อย ฟื้นตัวเร็ว และลดความรู้สึกระคายเคืองตาหลังผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการออกแบบที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง SMILE Pro จึงไม่เพียงเป็น เลสิคบาดแผลเล็ก แต่ยังเป็นทางเลือกที่ให้ความมั่นใจทั้งในด้านผลลัพธ์และความปลอดภัยในระยะยาว

SMILE Pro คืออะไร?

SMILE Pro หรือชื่อเต็มว่า Small Incision Lenticule Extraction Proคือเทคโนโลยีการผ่าตัดเลสิครุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจากเทคนิค ReLEx SMILE โดยเน้นความแม่นยำ ความปลอดภัย และการผ่าตัดที่มีแผลเล็กที่สุดในกลุ่มการทำเลสิคปัจจุบัน วิธีการนี้ใช้ Femtosecond Laser ยิงเลเซอร์ลงไปในชั้นกลางของกระจกตา เพื่อแยกชั้นเนื้อเยื่อบาง ๆ ให้มีรูปร่างคล้ายเลนส์ขนาดจิ๋วที่เรียกว่า lenticule

SMILE Pro คืออะไร

          หลังจากเลเซอร์แยกชั้นกระจกตาสำเร็จแล้ว แพทย์จะทำการเปิดแผลเล็กขนาดเพียง 2–4 มิลลิเมตรบริเวณขอบกระจกตา แล้วดึง lenticule ดังกล่าวออกผ่านช่องเปิดนี้ โดยไม่ต้องเปิดฝากระจกตา ขึ้นเหมือนการทำเลสิคทั่วไป

          จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้อยู่ที่การลดการรบกวนกระจกตาชั้นบนอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยให้โครงสร้างของกระจกตายังคงความแข็งแรงตามธรรมชาติ ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระจกตาโก่ง (Ectasia) หรือแผล flap เคลื่อนในอนาคต อีกทั้งยังช่วยลดอาการตาแห้งและแสงกระจายรอบดวงไฟ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเทคนิคเดิม

          นอกจากนี้ SMILE Pro ยังช่วยให้การมองเห็นหลังผ่าตัดมี คุณภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อยหรือเวลากลางคืน เนื่องจากแผลมีขนาดเล็กและรูปแบบการแยกชั้นเนื้อเยื่อถูกควบคุมอย่างแม่นยำในทุกขั้นตอน ด้วยการสนับสนุนจากเครื่อง Visumax 800 ที่ทำงานได้รวดเร็วและเสถียรที่สุดในปัจจุบัน

ข้อดีของการทำ SMILE Pro

การทำเลสิคด้วยเทคโนโลยี SMILE Pro ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในฐานะทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสายตา ทั้งสายตาสั้นและสายตาเอียง ด้วยข้อดีที่เหนือกว่าวิธีเลสิคแบบดั้งเดิมในหลายด้าน ดังนี้

ข้อดีของการทำ SMILE Pro

ผ่าตัดด้วย Femtosecond Laser ทุกขั้นตอน ไม่มีใบมีด
SMILE Pro เป็นการผ่าตัดที่ไม่ใช้ใบมีดเลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว จึงเรียกได้ว่าเป็นการผ่าตัดที่ “ไร้การสัมผัส” อย่างแท้จริง การใช้ Femtosecond Laser ตลอดกระบวนการช่วยลดความเสี่ยงจากแรงกดหรือแรงบิดที่เกิดจากการใช้เครื่องมือแบบแมนนวล และเพิ่มความแม่นยำในระดับไมครอน

เล็กเพียง 2–4 มม. ลดโอกาสการติดเชื้อ
ด้วยขนาดแผลที่เล็กกว่าการทำ Femto LASIK ถึง 80% ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อภายหลังการผ่าตัดจึงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แผลที่เล็กยังช่วยลดอาการบวม ระคายเคือง และทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่เจ็บขณะผ่าตัดหรือหลังทำเสร็จ

ระยะเวลาการยิงเลเซอร์สั้นเพียง 8–10 วินาทีต่อข้าง
เครื่อง Visumax 800 ที่ใช้ใน SMILE Pro มีความเร็วสูงถึง 2 MHz จึงสามารถยิงเลเซอร์ได้เสร็จภายในไม่กี่วินาที ลดความเครียดและความวิตกกังวลของผู้เข้ารับการผ่าตัด และลดระยะเวลาที่ดวงตาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเครื่องมือ

ไม่เปิดฝากระจกตา ช่วยคงความแข็งแรงของกระจกตา
ต่างจาก LASIK หรือ Femto LASIK ที่ต้องเปิดฝากระจกตา (flap) ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างกระจกตาอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการเคลื่อนในอนาคต SMILE Pro ไม่มีการเปิด flap จึงรักษาความแข็งแรงของกระจกตาไว้ได้มากที่สุด

ลดอาการตาแห้งและแสงกระจายหลังการผ่าตัด
เนื่องจากแผลมีขนาดเล็กและการตัดผ่านเส้นประสาทรอบดวงตาน้อยกว่า จึงลดโอกาสในการเกิดอาการตาแห้งได้ดีกว่าการทำเลสิคแบบอื่น รวมถึงลดการมองเห็นแสงกระจาย (glare/halo) ในที่มืดได้อย่างชัดเจน

เห็นผลเร็ว พักฟื้นสั้น สามารถกลับมาใช้สายตาได้ในวันถัดไป
ผู้ที่ทำ SMILE Pro ส่วนใหญ่จะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก และสามารถกลับมาใช้สายตาในชีวิตประจำวัน เช่น ขับรถ ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือใช้โทรศัพท์ ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ใครเหมาะกับการทำ SMILE Pro?

แม้ SMILE Pro จะเป็นเทคโนโลยีเลสิครุ่นใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ ดังนั้น การประเมินว่าใคร “เหมาะสม” กับการทำ SMILE Pro จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องอาศัยการตรวจสุขภาพดวงตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์เฉพาะทาง โดยทั่วไป กลุ่มที่เหมาะกับการทำ SMILE Pro ได้แก่

ใครเหมาะกับการทำ SMILE Pro
ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี

ผู้ที่มีค่าสายตาเปลี่ยนแปลงบ่อยอาจยังไม่เหมาะกับการทำเลสิค เนื่องจากการผ่าตัดจะให้ผลดีที่สุดเมื่อค่าสายตา "นิ่ง" แล้ว จึงแนะนำให้รอจนกว่าสายตาจะคงที่อย่างน้อยหนึ่งปีก่อนรับการรักษา

ผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน -10.00 Diopters และสายตาเอียงไม่เกิน -5.00 Diopters

หรือรวมกันไม่เกิน -12.00 ซึ่งอยู่ในช่วงค่าที่ SMILE Pro สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ที่ไม่มีโรคตา เช่น กระจกตาย้วย ต้อหิน ต้อกระจก หรือจอประสาทตาเสื่อม

ผู้ที่มีโรคตาเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด หรืออาจทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

ผู้ที่ไม่มีโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อกระบวนการสมานแผล เช่น SLE, Sjogren's Syndrome หรือเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

โรคเรื้อรังบางชนิดมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจทำให้การผ่าตัดกระจกตาไม่ปลอดภัยหรือหายช้ากว่าปกติ

ผู้ที่ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งอาจทำให้ค่าสายตาแปรปรวนและไม่คงที่ อีกทั้งยังไม่ควรใช้ยาบางชนิดที่จำเป็นหลังการผ่าตัดในช่วงให้นมบุตร

ขั้นตอนการทำ SMILE Pro

การผ่าตัด SMILE Pro เป็นกระบวนการที่รวดเร็ว แม่นยำ และไม่เจ็บ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Femtosecond Laser ขั้นสูง ซึ่งควบคุมโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางตลอดทั้งกระบวนการ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

1
หยอดยาชาเฉพาะที่ ก่อนเริ่มการผ่าตัด จักษุแพทย์จะหยอดยาชาเฉพาะที่ลงบนดวงตาเพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบายตลอดการทำเลสิค วิธีนี้ไม่เจ็บ และช่วยให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกถึงแรงกดหรือความเจ็บระหว่างทำหัตถการ
2

ใช้ Femtosecond Laser ยิงเลเซอร์แยกชั้นกระจกตาเป็น lenticuleเครื่อง Visumax 800 จะทำการยิงเลเซอร์ด้วยความเร็วสูงและความแม่นยำระดับไมครอน เพื่อแยกชั้นเนื้อเยื่อกระจกตาให้มีรูปร่างคล้ายเลนส์ขนาดเล็ก (เรียกว่า lenticule) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการปรับรูปร่างกระจกตา

3
เปิดแผลเล็กด้านข้างกระจกตา (2–4 มม.) หลังจากสร้าง lenticule เสร็จแล้ว เครื่องจะทำการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณขอบกระจกตา โดยไม่ต้องเปิด flap หรือฝากระจกตาขึ้นเหมือนเทคนิคเลสิคทั่วไป แผลมีขนาดเพียง 2–4 มิลลิเมตร จึงช่วยลดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้อย่างมาก
4
นำ lenticule ออก เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา จักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษค่อย ๆ ดึง lenticule ออกอย่างนุ่มนวลผ่านแผลเล็กที่เปิดไว้ ซึ่งการนำเนื้อเยื่อส่วนนี้ออกจะส่งผลให้ความโค้งของกระจกตาเปลี่ยนไป และสามารถปรับจุดโฟกัสของการมองเห็นให้กลับมาเป็นปกติได้
5
ไม่ต้องเย็บ ไม่ต้องปิด flap กระจกตาไป ด้วยความที่เป็นเทคนิคแบบไร้ flap (Flapless), ผู้เข้ารับการรักษาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเปิดหรือ flap เคลื่อนในอนาคต แผลขนาดเล็กจะสมานตัวได้เองโดยไม่ต้องเย็บ และไม่ต้องใช้วัสดุปิดแผลเพิ่มเติมใด ๆ
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงประมาณ 10–15 นาทีต่อข้าง และสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังจบการผ่าตัด โดยไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล

การดูแลตัวเองหลังทำ SMILE Pro

แม้ว่าการทำ SMILE Pro จะเป็นการผ่าตัดที่มีแผลเล็กและพักฟื้นเร็ว แต่การดูแลตนเองในช่วงแรกหลังผ่าตัดยังคงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้แผลสมานดี ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนอย่างเต็มที่ในระยะยาว โดยคำแนะนำหลักจากจักษุแพทย์มีดังนี้

สวมที่ครอบตาขณะนอนอย่างน้อย 3 วัน

  • เพื่อป้องกันไม่ให้มือไปสัมผัสหรือขยี้ตาโดยไม่รู้ตัวระหว่างนอนหลับ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนแผลผ่าตัดได้


งดล้างหน้า–แต่งหน้ารอบดวงตา 7 วัน

  • น้ำหรือผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่เข้าสู่ดวงตาในช่วงแรกอาจทำให้แผลระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางทุกชนิดรอบดวงตา และหลีกเลี่ยงไม่ให้สบู่หรือแชมพูเข้าตาโดยเด็ดขาด


งดว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือออกกำลังกายหนัก 1 เดือน

  • น้ำหรือผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่เข้าสู่ดวงตาในช่วงแรกอาจทำให้แผลระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางทุกชนิดรอบดวงตา และหลีกเลี่ยงไม่ให้สบู่หรือแชมพูเข้าตาโดยเด็ดขาด


หยอดยาตามแพทย์สั่งตรงเวลา

  • ยาหยอดตาที่จักษุแพทย์จัดให้มีทั้งยาปฏิชีวนะและยาลดการอักเสบ ซึ่งช่วยให้แผลหายเร็วและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง การหยอดไม่ครบหรือไม่ตรงเวลาอาจกระทบต่อผลลัพธ์หลังการรักษาได้


พบทันจักษุแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด

  • การติดตามผลหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญ จักษุแพทย์จะตรวจประเมินแผล กระจกตา และความชัดของการมองเห็น เพื่อปรับแผนการดูแลหากจำเป็น และมั่นใจว่าการฟื้นตัวเป็นไปตามที่คาดหวัง

ด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีร่วมกับเทคโนโลยีที่แม่นยำของ SMILE Pro คุณสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติในเวลาไม่นาน และสัมผัสกับการมองเห็นที่ชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งแว่นหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าเทคโนโลยี SMILE Pro จะถูกออกแบบมาเพื่อลดการรบกวนกระจกตาและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในเลสิคแบบเดิม แต่ก็ยังมี ผลข้างเคียงเล็กน้อยบางประการ ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาการชั่วคราวและสามารถหายได้เองเมื่อดวงตาปรับตัวได้สมบูรณ์ โดยอาการที่อาจพบ ได้แก่

ตาแห้งในช่วงแรก
ตาแห้งในช่วงแรก ภายหลังการผ่าตัด เส้นประสาทบริเวณผิวกระจกตาอาจถูกตัดผ่านบางส่วน ส่งผลให้การรับรู้ความชุ่มชื้นของดวงตาลดลง ทำให้เกิดอาการตาแห้งหรือระคายเคือง แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการหยอดน้ำตาเทียมตามคำแนะนำของแพทย์
เห็นแสงกระจายรอบดวงไฟในที่มืด
เห็นแสงกระจายรอบดวงไฟในที่มืด (Halo / Glare) อาการนี้เกิดจากการปรับสภาพของกระจกตาหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก อาจทำให้มองเห็นแสงฟุ้งหรือเป็นวงรอบดวงไฟในที่แสงน้อย ซึ่งมักจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อการฟื้นตัวของกระจกตาดีขึ้น
ระคายเคืองเล็กน้อยช่วง 1–2 วันแรก ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา หรือแสบตาเล็กน้อยหลังผ่าตัด โดยเฉพาะเมื่อหยอดยาหรือเปิดตามองแสงจ้า แต่โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง
ภาพพร่ามัวที่ดีขึ้นภายใน 1–4 สัปดาห์ แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมองเห็นได้ชัดเจนในวันรุ่งขึ้น แต่บางรายอาจมีอาการพร่ามัวเล็กน้อยอยู่บ้างในช่วงแรก การฟื้นตัวของค่าสายตาอาจใช้เวลาระหว่าง 1–4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล
หากมีอาการผิดปกติอื่นนอกเหนือจากนี้ เช่น ปวดตามากผิดปกติ ตาแดงเรื้อรัง หรือการมองเห็นแย่ลง ควรรีบกลับมาพบจักษุแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SMILE Pro

ผ่าตัด SMILE Pro แล้วเจ็บไหม?

SMILE Pro จะไม่มีอาการเจ็บ เพราะก่อนเริ่มการผ่าตัดจะมีการหยอดยาชาเฉพาะที่ลงในดวงตา ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองระหว่างทำหัตถการ โดยอาจรู้สึกถึงแรงกดเล็กน้อยเท่านั้น และไม่มีเสียงดังหรือกลิ่นเหมือนการทำเลสิคแบบดั้งเดิม

ผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่จะสามารถมองเห็นได้ชัดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก และฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 1–2 สัปดาห์ โดยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ขับรถ หรือดูโทรศัพท์ ได้เร็วกว่าเทคนิคเลสิคแบบอื่น
หากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีค่าสายตาคงที่ SMILE Pro สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวรได้ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการใช้สายตา เช่น การจ้องหน้าจอนาน ๆ การอ่านหนังสือโดยไม่พักสายตา หรือการไม่สวมแว่นกันแดด อาจส่งผลให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้

SMILE Pro คือหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขค่าสายตาอย่าง แม่นยำ ปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี เลสิค บาดแผลเล็ก ที่ไม่ต้องเปิดฝากระจกตา ใช้เวลาเพียง 8 วินาทีในการยิงเลเซอร์ ลดผลข้างเคียง ฟื้นตัวไว และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาสายตาที่ทันสมัย ปลอดภัย และดำเนินการโดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เราขอแนะนำให้คุณมาพูดคุยและรับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับจักษุแพทย์ที่ เลสิคหมอจตุพร คลินิกเฉพาะทางที่พร้อมให้การดูแลในทุกขั้นตอนของการทำเลสิค ตั้งแต่การตรวจวิเคราะห์ไปจนถึงการผ่าตัดและการติดตามผล ให้ SMILE Pro เป็นก้าวแรกของคุณ…ในการกลับมามองเห็นโลกได้ชัดเจนอีกครั้งอย่างมั่นใจ นัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาเบื้องต้นได้แล้ววันนี้ กับเลสิคหมอจตุพร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้มีความสำคัญต่อการให้บริการบนเว็บไซต์แก่คุณและเพื่อให้คุณสามารถใช้คุณลักษณะบางอย่างได้ คุกกี้เหล่านี้ช่วยในการยืนยันตัวบุคคลของผู้ใช้งานและช่วยป้องกันการปลอมแปลงบัญชีผู้ใช้งาน หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้เราอาจไม่สามารถให้บริการแก่คุณได้ เราใช้คุกกี้ดังกล่าวนี้เพื่อให้บริการแก่คุณ

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ (Analytical/Performance Cookies)

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้เราจดจำและนับจำนวนผู้ใช้งานบนไซต์ของเรา รวมถึงทำให้เราเข้าใจถึงวิธีการที่ผู้ใช้งานใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา สิ่งเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงวิธีการทำงานของเว็บไซต์เรา เช่น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

บันทึกการตั้งค่า